ช่องทางส่วนใหญ่คาดหวังให้โรงแรมแสดง ' ราคาขาย' (ราคา รวม ค่าคอมมิชชัน/ภาษี) สำหรับแต่ละห้อง โดยช่องทางเหล่านี้ไม่ต้องการตัวคูณราคา เนื่องจากราคาที่โฆษณาจะเท่ากับราคาที่กำหนดในผู้จัดการช่องทาง

ช่องทางบางช่องทางอาจคาดหวังให้โรงแรมได้รับการส่ง 'ราคาสุทธิ' (ราคา ไม่รวม ค่าคอมมิชชัน/ภาษี) สำหรับแต่ละห้อง โดยช่องทางเหล่านี้มักจะเพิ่มค่าคอมมิชชันของพวกเขาไปยังราคาที่ส่งจากผู้จัดการช่องทาง ก่อนที่จะ โฆษณาให้กับลูกค้า

การจัดการราคาแบบง่ายในตารางอินเวนทอรี

การกำหนดราคาที่สม่ำเสมอในหลายช่องทาง

ช่อง A คาดว่าจะส่งราคาขาย จึงไม่ต้องการตัวคูณราคา

ช่อง B คาดว่าจะส่งราคาสุทธิ (ราคาไม่รวมค่าคอมมิชชัน 20 เปอร์เซ็นต์) ดังนั้นจึงตั้งค่าตัวคูณราคาไว้ที่ 0.80 ราคานี้หมายความว่าราคาห้อง 100 จะคูณด้วย 0.80 และส่งค่า 80 ไปยังช่องทางดังกล่าว จากนั้นช่องทางดังกล่าวจะเพิ่มค่าคอมมิชชัน 20 เปอร์เซ็นต์ให้กับราคา ซึ่งจะส่งคืนราคาเป็น 100 ซึ่งเป็นราคาที่โฆษณาต่อแขก
​

1: กำหนดราคาเท่าเดิม

1.2: เท่ากับบวก 20 เปอร์เซ็นต์เพิ่มเข้าไปยังราคาดังกล่าว หากราคาคือ 100 เหรียญ ดังนั้น 100x1.2=120 เหรียญ ซึ่งเท่ากับ 100+20%=120 เหรียญนั่นเอง

0.8: เท่ากับลบ 20 ออกจากราคาดังกล่าว หากราคาคือ 100 เหรียญ ดังนั้น 100x0.8=80 เหรียญ ซึ่งเท่ากับ 100-20%=80 เหรียญนั่นเอง

20: เท่ากับบวก 1900 เปอร์เซ็นต์เข้าไปยังราคาดังกล่าว หากราคาดังกล่าวคือ 100 เหรียญ ดังนั้น 100x20=2000 เหรียญ ซึ่งเท่ากับ 100+1900%=2000 เหรียญนั่นเอง ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่า 20 ไม่ใช่ มูลค่าที่คาดหวังสำหรับราคาที่เพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์แต่อย่างใด หากคุณต้องการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยและตั้งค่าตัวคูณของคุณให้มีมูลค่าสูงมาก เช่น 20 เป็นต้น มันจะกลายเป็นการตั้งราคาที่สูงมากเกินไปสำหรับห้องของคุณ

0.2: เทียบเท่ากับ -80% ของราคาดังกล่าว ซึ่งหากราคาคือ 100 เหรียญ ดังนั้น 100x0.2=20 เหรียญ ซึ่งเท่ากับ 100-80%=20 เหรียญนั่นเอง ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่า 0.2 (หรือ 0.20) จึงไม่ใช่ มูลค่าที่คาดไว้สำหรับส่วนลด -20% หากคุณต้องการส่วนลดเล็กน้อยและตั้งค่าตัวคูณของคุณให้มีค่าต่ำมากเกินไป เช่น 0.2 เป็นต้น มันก็จะกลายเป็นว่าคุณจะขายห้องของคุณในราคาที่ต่ำเกินไป